top of page
Search

Society 5.0: สังคมญี่ปุ่นแห่งอนาคต

ในแต่ละสังคม มีลำดับการพัฒนาเป็นการเฉพาะของตนเอง สังคมในอนาคตของแต่ละสังคมขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ที่มองไปในอนาคตเพื่อจะพัฒนาสังคมต่อไป วิธีการที่สำคัญคือการนำพัฒนาการทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ มาผนวกรวมกับฐานเดิมของสังคมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน วัฒนธรรม และธรรมชาติ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาเดิมๆ ที่ยังมีอยู่ ความท้าทายใหม่ที่กำลังจะต้องเผชิญในอนาคต พร้อมทั้งเพื่อสร้างสรรค์และยกระดับประชาชนและสังคมให้ก้าวหน้ามากขึ้น


ประเทศไทยเรามีวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย 4.0” หรือการยกระดับประเทศผ่านการสร้างสรรค์ทางนวัตกรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีการถกเถียงหารือกันอย่างกว้างขวาง ในประเทศญี่ปุ่นเอง แนวคิดเรื่อง “สังคมญี่ปุ่น 5.0” ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ และน่าศึกษาดูว่าคนญี่ปุ่นคิดอย่างไรกับอนาคตของประเทศ จะพัฒนาสังคมไปในทิศทางใด


ญี่ปุ่นกับสังคม 5.0


ลำดับพัฒนาการของสังคมญี่ปุ่นเริ่มจาก สังคมการล่าสัตว์ (Society 1.0) มาสู่สังคมเกษตรกรรม (Society 2.0) ก้าวไปสู่สังคมอุตสาหกรรม (Society 3.0) และปัจจุบันคือสังคมข้อมูลสารสนเทศ (Society 4.0) วิสัยทัศน์สังคม 5.0 ของญี่ปุ่นหมายถึงสังคมที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เป็นสังคมที่มีความสมดุลของความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาทางสังคม ผ่านการนำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงพื้นที่เสมือน (ไซเบอร์สเปซ) และพื้นที่ทางกายภาพ (พื้นที่จริง) เข้าด้วยกัน และใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งทำให้สามารถบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


สังคม 5.0 นำเสนอในแผนพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ฉบับที่ 5 ในฐานะสังคมในอนาคตที่ญี่ปุ่นควรให้ความสำคัญ ที่ผ่านมา ในสังคมข้อมูลสารสนเทศ (Society 4.0) ญี่ปุ่นเห็นว่าเพียงแค่การแบ่งปันความรู้และข้อมูลนั้นยังไม่เพียงพอ อีกทั้งความร่วมมือระหว่างกันของคนและองค์กรยังเกิดขึ้นได้ยาก ข้อจำกัดที่สำคัญ คือ ปริมาณข้อมูลจำนวนมากที่ล้นเกิน การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เป็นงานหนัก นอกจากนี้ การทำงานถูกจำกัดจากอายุของคนญี่ปุ่นที่สูงขึ้น ระดับความสามารถที่มีแตกต่างกัน ความท้าทายในภาพรวมของญี่ปุ่น คือ อัตราการเกิดลดลง การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ และการลดลงของประชากร


สังคม 5.0 เกิดขึ้นได้จากเทคโนโลยีปัจจุบันที่เอื้อให้เกิดการเชื่อมกันระหว่างพื้นที่เสมือนกับพื้นที่ทางกายภาพหรือพื้นที่จริง ในสังคมข้อมูลสารสนเทศที่ผ่านมา (Society 4.0) ผู้คนจะเข้าถึงข้อมูลผ่านบริการคลาวด์และฐานข้อมูลในโลกเสมือน ผ่านการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตนได้ ส่วนในสังคม 5.0 ข้อมูลต่างๆ จากพื้นที่ทางกายภาพจำนวนมากจะถูกสะสมในโลกเสมือน โดยในโลกเสมือนนั้น ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จะได้รับการวิเคราะห์โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI)


ในสังคมข้อมูลที่ผ่านมา การปฏิบัติทั่วไป คือ การรวบรวมข้อมูลผ่านทางเครือข่ายและทำการวิเคราะห์โดยมนุษย์ แต่ในสังคม 5.0 คน สิ่งต่างๆ และระบบต่าง ๆ จะเชื่อมต่อกันในโลกเสมือน และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากปัญญาประดิษฐ์จะส่งมอบกลับสู่โลกจริง กระบวนการนี้จะนำคุณค่าใหม่ๆ มาสู่อุตสาหกรรมและสังคมในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน


สังคม 5.0 กับการเดินทางในอนาคต (Mobility)


ในสังคม 5.0 จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับเดินทาง โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากรถยนต์ ข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับสภาพอากาศการจราจร ที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม และประวัติส่วนตัว ทำให้การเดินทางและการท่องเที่ยวจะง่ายดายขึ้นมาก เช่น ทำให้เส้นทางการท่องเที่ยวตรงกับความต้องการส่วนบุคคล และเสนอแผนการที่ดีที่สุดจากการพิจารณาจากสภาพอากาศและความแออัด การเดินทางจะเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย โดยไม่เกิดความแออัดและลดอุบัติเหตุผ่านรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยตนเอง นอกจากนี้ การเดินทางจะลื่นไหลคล่องตัวจากการเชื่อมบริการแบ่งปันรถกับการขนส่งสาธารณะ ผู้สูงอายุและผู้พิการทางร่างกายก็สามารถเดินทางด้วยตัวเองผ่านการใช้เก้าอี้ล้อเลื่อนอัตโนมัติ





สังคม 5.0 กับการดูแลสุขภาพและการดูแลผู้ป่วยในอนาคต


สังคม 5.0 จะเปิดโอกาสให้เราวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อดูแลสุขภาพและผู้ป่วย โดยข้อมูลครอบคลุมข้อมูลทางสรีรวิทยาในเวลาจริง ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลการรักษา การติดเชื้อและข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม จึงทำให้สามารถตรวจสุขภาพแบบเรียลไทม์ ทำให้สุขภาพที่ดีและตรวจหาความเจ็บป่วยได้สะดวก ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตที่สะดวกสบายด้วยตัวเอง สามารถใช้หุ่นยนต์เพื่อลดภาระการดูแลสุขภาพและการดูแลผู้ป่วย แพทย์สามารถมอบการรักษาที่ดีที่สุดโดยการแบ่งปันข้อมูลด้านสรีรวิทยาและข้อมูลทางการแพทย์ สังคม 5.0 จึงช่วยลดต้นทุนทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การดูแลและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสถานบริการด้านสุขภาพ


สังคม 5.0 กับการผลิตในอนาคต


สังคม 5.0 ช่วยให้เกิดการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ข้อมูลสินค้าคงคลังของผู้จัดจำหน่าย และข้อมูลการจัดส่งสินค้าแบบเรียล์ไทม์ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ ทำให้สามารถวางแผนการผลิตที่ยืดหยุ่นและจัดการสินค้าคงคลังเพื่อตอบสนองความต้องการในปัจจุบันด้วยการสร้างการเชื่อมโยงกับซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรม สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์เพื่อประสานงานระหว่างโรงงานเพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นประหยัดแรงงาน ทำให้การกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถขนส่งสินค้าข้ามอุตสาหกรรมร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยให้ลูกค้าและผู้บริโภคสามารถรับสินค้าราคาถูกได้อย่างรวดเร็วจากการจัดส่งตามความต้องการ


สังคม 5.0 เป็นความหวังเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น รวมถึงการตอบสนองต่อภัยพิบัติ การลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและกระตุ้นการบริโภค


สังคม 5.0 กับการเกษตรในอนาคต


การวิเคราะห์ข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลการเจริญเติบโตของพืช สภาพตลาด แนวโน้มความต้องการอาหารแบบเรียล์ไทม์ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์จากการเชื่อมโยงระบบผ่าน Internet of Things (IoTs) จะช่วยให้เกิดการทำฟาร์มแบบอัจฉริยะที่สามารถประหยัดแรงงานและมีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยการทำงานโดยอัตโนมัติในฟาร์ม ช่วยประหยัดแรงงานผ่านการใช้หุ่นยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำตามการคาดการณ์สภาพอากาศข้อมูลแม่น้ำ สามารถจัดทำแผนการทำการเกษตรด้วยการกำหนดผลผลิตพืชที่เหมาะกับความต้องการ


การเพิ่มประสิทธิภาพแผนการทำงานร่วมกับการคาดการณ์สภาพอากาศ การแบ่งปันประสบการณ์และความรู้และการขยายฐานลูกค้า ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรได้ตามความต้องการของตลาดและส่งมอบผลผลิตในฟาร์มให้กับผู้บริโภคเมื่อพวกเขาต้องการโดยยานพาหนะขับขี่ด้วยตนเอง การแก้ปัญหาเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการผลิตอาหารและสร้างเสถียรภาพของอุปทาน แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในพื้นที่การเกษตร ลดเศษเหลือจากอาหารและกระตุ้นการบริโภค


สังคม 5.0 กับอาหารแห่งอนาคต


การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมข้อมูลการแพ้อาหารส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารที่เก็บในตู้เย็นของครอบครัว การเก็บสินค้าในร้านค้าปลีกและสภาวะตลาด ซึ่งจะส่งผลทำให้การจัดซื้ออาหารทำได้สะดวก โดยการเสนอข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมาะกับข้อมูลภูมิแพ้และความชอบส่วนบุคคล ช่วยลดของเสีย ผ่านการจัดการอาหารที่จัดเก็บไว้ในตู้เย็นโดยอัตโนมัติ และทำให้สามารถสั่งซื้อและจัดซื้ออาหารที่จำเป็นเท่านั้น การรับประทานอาหารน่ารื่นรมย์ขึ้นโดยการเสนอการปรุงอาหารตามความชอบของครอบครัวหรือภาวะสุขภาพในแต่ละวัน นอกจากนี้ ผู้ผลิตฟาร์มและร้านค้าปลีกจัดการการผลิต การสั่งซื้อและสินค้าคงคลังตามความต้องการของลูกค้า สำหรับสังคมโดยรวมจะสามารถช่วยลดขยะจากอาหารและทำให้อุตสาหกรรมอาหารมีความสามารถการแข่งขันสูงขึ้น


สังคม 5.0 กับอนาคตของการป้องกันภัยพิบัติ (Disaster Prevention)


ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติสูง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ครอบคลุมการสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางดาวเทียม โดยใช้เรดาร์ตรวจอากาศบนพื้นดิน หรือโดยเครื่องบินรบ ข้อมูลความเสียหายของโครงสร้าง เซ็นเซอร์และข้อมูลความเสียหายบนท้องถนนจากรถยนต์ ซึ่งจะส่งผลทำให้ทีมกู้ภัยสามารถค้นพบผู้ประสบภัยได้ทันทีผ่านชุดช่วยเหลือหุ่นยนต์ช่วยเหลือ และช่วยเหลือพวกเขาจากอาคารที่เกิดภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประสบภัยทุกคนมีที่พักพิงและข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาทุกข์ผ่านทางโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่น ๆ ตามสภาพความหายนะ และสามารถเคลื่อนย้ายคนไปยังที่พักพิงได้อย่างปลอดภัย สามารถจัดส่งวัสดุบรรเทาทุกข์ที่ดีที่สุดผ่านโดรนหรือรถขับเคลื่อนด้วยตนเอง จึงส่งผลให้สังคมโดยรวมสามารถช่วยลดความเสียหายและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น


สังคม 5.0 และอนาคตของพลังงาน


การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา การปฏิบัติงานของโรงไฟฟ้า การเรียกเก็บเงินของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการใช้พลังงานของทุกครัวเรือน จะช่วยให้จัดหาพลังงานมีเสถียรภาพ ผ่านแหล่งพลังงานที่หลากหลายที่ขึ้นอยู่กับการพยากรณ์ความต้องการที่ถูกต้องและการคาดการณ์สภาพอากาศ ช่วยส่งเสริมการประหยัดพลังงานของแต่ละครัวเรือน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานตามการพยากรณ์อุปทาน สังคมโดยรวมสามารถช่วยจัดหาพลังงานที่มีเสถียรภาพและลดภาระด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก




การขับเคลื่อนสังคม 5.0


เป้าหมายสำคัญของสังคม 5.0 คือการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาทางสังคม การเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่นนี้ในโลกเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น IOT, หุ่นยนต์, ปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้สามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสังคมได้ ญี่ปุ่นจึงพยายามทำให้สังคม 5.0 เกิดขึ้นจริง ในฐานะสังคมใหม่ที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันในทุกอุตสาหกรรมและสังคม เพื่อให้สามารถบรรลุทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาทางสังคมในแบบคู่ขนานกัน


สังคม 5.0 เป็นกรอบแนวคิดเพื่อพัฒนาที่สำคัญของญี่ปุ่น ที่ช่วยให้เราเห็นภาพของการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาสังคมในมิติต่างๆ อย่างน่าสนใจ ช่วยให้เรามองเทคโนโลยีในมุมบวกและเชื่อมโยงกับการแก้ไขปัญหาสังคม อีกทั้งช่วยให้เราเห็นหนทางและโอกาสการใช้เทคโนโลยีมาแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ ของประเทศ ดังคำพูดที่ว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ดีหรือร้ายในตัวของมันเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีที่ผู้คนจะเลือกปรับใช้เองอย่างเหมาะสม


2,640 views0 comments
bottom of page